วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2557

เมนซ์ว้อยของยูนิตเคกับนางฟ้าประจำยูนิตเอ็ม











ชานแบค น่ารักมากกกก คู่นี่เป็นอะไรที่ฟินสุดๆ >///<



อ๊ายยย พี่ลู่กับน้องฮุนนน คู่จิ้นตลอดกาล อ้ากกกก



คิ้วเรียวกระตุกยิบๆเมื่อเห็นข้อความในจอภาพ ไอแพดราคาแพงกำลังอยู่ในมือแกร่งของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ปลายนิ้วจิ้มนู่นจิ้มนี่ นั่นยิ่งทำให้เส้นเลือดเขาปูดยิ่งขึ้น



ชานแบค ฮุนฮาน คริสลู่ ลู่หมิน ไคฮุน..



หงุดหงิด หงุดหงิด หงุดหงิดจริงโว้ย!!!



ปากสวยเบ้ออกอย่างขัดใจก่อนจะกระแทกขาแล้วลุกขึ้นยืน ยิ่งเห็นภาพมักเน่ประจำวงกำลังนัวเนียกับพี่คนสวยแล้วยิ่งทำให้เขาแทบจะปาร้องเท้าใส่ อีกทั้งเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นเป็นระลอกนั้นแบคฮยอนก็ยิ่งเบ้ปากออกมา ขาเรียวเดินจ้ำอ้าวออกไปโดยมีไอรังสีอำมหิตตามติดไปด้วยท่ามกลางความสงสัยของเพื่อร่วมวงและพวกพี่ผู้จัดการ



ไอ้ตัวแสบประจำวงมันเป็นอะไร ? =_=… ?



เห้ยๆ แบคฮยอน ไปไหนๆ! เขาขึ้นรถกันแล้วโว้ยย!” เสียงพี่ผู้จัดการดังจากด้านหลังทำให้คนที่กำลังหงุดหงิดยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ ร่างเล็กรีบหันหลังกลับและกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปหาจุดเดิม ทุกคนต่างทยอยกัน


ขึ้นรถ บางกลุ่มก็ขึ้นไปกับคันที่แล้ว เพราะยานพาหนะของเราไม่ค่อยเอื้อยอำนวยสักเท่าไร พวกเขาจึงเลือกที่จะขึ้นรถโดยสารไปยังที่พักแทน



ทันทีทีปลายเท้าเหยียบเข้ามาในตัวรถโดยสารก็ปะทะเข้ากับดวงตากลมโตน่ารักแต่ฉายความเจ้าเล่ห์อยู่เสมอ(สำหรับแบคฮยอน)



เป็นอะไร ใบหน้าน่ารักราวกับนางฟ้าของอีกฝ่ายฉายแววความสงสัยซึ่งมันไม่เข้ากับน้ำเสียงเล้ยยย เสียงหวานๆเหมือนนกน้อยใครได้ยินเป็นต้องหลงใหล อีกทั้งใบหน้าสวยที่ทำให้หญิงสาวทุกคนถึงกับแพ้ราบคาบ



ไม่ทันได้ตอบหรืออ้าปากคนตัวเล็กกว่าก็เซไปด้านหลังพร้อมๆกับอีกคนที่ทาบทับตามมา ผู้คนต่างทยอยกันขึ้นมาจนรถแน่นเอี๊ยดแทบจะไม่มีที่ให้ยืน แผ่นหลังเล็กๆแนบกับกระจกรถโดยมีคนที่สูงกว่าเล็กน้อยเอื้อมมาจับไหล่ไว้เป็นที่พยุง



บอกได้รึยังว่าเป็นอะไรเสียงนุ่มเอ่ยแผ่วเบาเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน แบคฮยอนทำหน้าเชิดก่อนจะเสมองไปทางอื่น เรียกเสียงถอนหายใจจากอีกคนได้เป็นอย่างดี



หึงรึไง



ผมเปล่า



หึงล่ะซี่



ก็บอกว่าเปล่า!” แบคฮยอนเริ่มขึ้นเสียงตามอารมณ์คนงอนก่อนที่เขาจะโค้งหัวให้คนรอบข้างรัวๆเมื่อเห็นว่าตัวเองเริ่มเสียงดังมากเกินไป



หึงแน่ๆ แบบนี้



ผมจะไปหึงอะไรฮยองได้ล่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย ริมฝีปากอิ่มแดงคว่ำนิดๆก่อนที่ใบหน้านวลจะก้มหน้าลง ลู่ฮานโน้มหน้าลงไปช้าๆ ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดข้างแก้ม ลู่ฮานจงใจที่จะกดริมฝีปากลงไปก่อนที่เขาจะชะงัก



แบคฮยอนและอีกคนที่เกือบจะทำอะไรหน้าอายต่อหน้าประชาชีทั้งหลายหันไปดูด้านข้างพร้อมกันก็พบว่ากำลังมีใครบางคนซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นแฟนคลับของพวกเขากำลังถ่ายวิดีโอไว้ และนั่นยิ่งทำให้มุมปากของคนหน้าสวยยิ้มนิดๆ



สร้างโมเม้นต์กันหน่อยมั้ย



ห้ะ สิ้นเสียงจากคนที่อายุมากกว่า แบคฮยอนก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสนุ่มๆที่เฉียดกันอย่างแผ่วเบาก่อนที่มันจะผละออกไป
ชั่วแวบที่เขาเห็นรอยยิ้มของนางฟ้านั้นแปรเปลียนเป็นซาตานตัวน้อยๆ



ลู่แบคจะได้มีเพิ่มขึ้นไง ลู่ฮานหัวเราะน้อยๆเมื่อเห็นแก้มใสนั่นขึ้นสีแดงระเรื่อ จริงอยู่ที่ภายนอกนั้นจับคู่ให้เขาคู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ร่างเล็กตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นฮุนฮาน คริสลู่ หรือลู่หมิน ก็ตาม และส่วนใหญ่ชื่อของเขาจะอยู่ด้านหลังซึ่งบ่งบอกถึงว่าเขาจะเป็นฝ่ายรับเสมอ



แต่ความจริงมันไม่ใช่ซะหน่อย



เห็นหน้าหวานๆแบบนี้ความจริงอาจจะโคตรแมนเลยนะครับ J



ลู่ฮานฮยอง..



เจ้าของชื่อเลิกคิ้วบางๆก่อนจะยิ้มนิดๆ แบคฮยอนยืดใบหน้าไปกระซิบข้างหูของอีกคนจนคนฟังอดยิ้มไม่ได้



แบครักเสี่ยวลู่นะ



โหย.. ได้ยินงี้แล้วพลังใจก็เต็มเปี่ยมสิครับ



รักแฟนเหมือนกันนะครับ



จุ๊ๆไว้นะ




เห็นฟินคู่ชานแบค ฮุนฮานกันเยอะ



แล้วใครเล่าจะรู้ว่าคู่จริงๆนะ



อาจจะเป็นอะไรที่มากกว่าฟินก็ได้



ไม่มีใครรู้หรอก.. ว่าเมนซ์ว้อยของยูนิตเคกับนางฟ้าประจำยูนิตเอ็มน่ะ



เขาคบกันล่ะ






Sinner-Nine









คนหนึ่ง.. รัก'ใครอีกคน'เพื่อลืมคนอีกคนในความทรงจำ



SINNER-NINE







            ความรักที่เคยบินหลุดลอยไปด้วยน้ำมือของตัวเอง
 

            ในตอนนี้ความรักนั้นกำลังอยู่ตรงหน้าเขา

 




            . . . .

 





            เสี่ยว ลู่ฮาน














            ความสัมพันธ์ที่ไม่เคยบอกใครและไม่มีใครได้รับรู้ถึงเรื่องราวความเจ็บปวด แสนสาหัสระหว่างเขากับลู่ฮาน บาดแผลใจที่ยังคงกัดกร่อนให้ใจนั้นเป็นแผลเหวอะหวะจนมิอาจรักษาให้หาย ครั้งสุดท้ายที่ได้สบตา สิ่งที่เขาเห็นคือความปวดช้ำในแววตาคู่นั้น


            ปล่อยนะ


            แรงดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนไม่เป็นผลต่อลำแขนสักเท่าไร แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งอีกคนทำท่าเป็นรังเกียจ ใจดวงน้อยๆก็แทบปริแตกออกมา


            ไม่


            เซฮุน!”


            “ไม่.. ไม่ปล่อย


            วงแขนกระชับกายแน่นจนรู้สึกหายใจติดขัด สัมผัสได้ถึงหน้าผากของอีกคนที่ทาบลงมาบนไหล่ น้ำเสียงอ่อนล้าแต่แฝงไปด้วยความแน่วแน่ทันทีที่อีกคนเอ่ยก็ทำลู่ฮานหยุด ชะงัก


            ไม่ปล่อยอีกแล้ว


            “…”


            ผมจะไม่ปล่อยพี่ไปอีกแล้ว


            พลันน้ำตาจะไหล แต่ความรู้สึกช่างขมขื่นจนมิอาจให้มันไหลออกมา ลู่ฮานกำมือแน่น ฝ่ามือมีรอยเลือดซิบจากการถูกเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ แต่เขากลับไม่ได้สนใจมัน


            เพราะมันคงไม่มีอะไรที่เจ็บไปกว่าหัวใจของเขาเอง


            ดิ้นรนหาทางออกจากอ้อมกอดที่เคยรู้สึกอบอุ่นยิ่งกว่าใคร แม้จะพยายามรักใครหรือถูกใจใคร สิ่งที่ตราตรึงในใจคือสองแขนแกร่งและจูบแสนหวาน ภาพบนเตียงที่เคยนอนกอดกันในวันที่ฝนตก ไอเยนๆนั้นกระทบกับผิวเนื้อ แว่วเสียงหัวเราะในวันวานกรอเข้ามาในความทรงจำ


            ยังจำได้ว่าตอนนั้นเรารักกันมากแค่ไหน


            พูดอะไรบ้าๆ ปล่อย!”


            บอกแล้วไงว่าไม่!”


            อ้ะ!” ไหล่บางถูกกระชากให้หันหลังกลับ ก่อนจะถูกดันจนแผ่นหลังกระแทกกับผนัง สิ่งที่ทาบทับตามมาคือริมฝีปากอุ่นร้อนที่ก้มลงมาบดขยี้จนกลีบปากบวมเจ่อ ลู่ฮานหลับตาแน่น รับรู้ถึงรสชาติแต่กลับรวดร้าวไปถึงจิตใจ


            “ปล่อยนะ เซฮุน อื้อ!!”


            เกลียวลิ้นอุ่นไล่ต้อนจนแทบหมดลมหายใจ คนตัวเล็กกว่าขยับเข่าหมายจะยกและกระแทกกับอีกคนอย่างแรงเพื่อให้หลุดพ้นจาก พันธนาการนี้


            แต่ลู่ฮานคงลืมฉุกคิดไป


            ว่าการป้องกันตัวแบบนี้คนที่เคยสอนตัวเองก็คือคนตรงหน้า..


            เห้ย!”                                                     


            เหมือนถูกดักทางทันทีที่ยกขา มือของอีกฝ่ายก็จับหมับเข้าที่ต้นขาไล้ฝ่ามือเบาๆผ่านเนื้อผ้ากางเกง ได้ยินเสียงแค่นหัวเราะในลำคอของอีกฝ่ายเหมือนกำลังสมเพช


          พลั่ก!


            เซฮุนกระเด็นออกจากจุดยืน มือหนาเสยผมที่ยาวปรกหน้าผากอย่างลวกๆ นัยต์คมเข้มที่มีแววนิ่งแต่แฝงความร้ายกาจจ้องมองเจ้าของใบหน้าหวานสวยด้วย ความว่างเปล่า


            แต่ในความว่างเปล่านั้นคือความรักที่มีให้สุดหัวใจ


            “พี่เข้าใจผมหน่อยดิวะ


            ความสัมพันธ์ที่เคยจบไปแล้ว... ยากที่จะเรียกร้องกลับคืน


            ผมคิดถึงพี่ ตอนนั้นผมรู้สึกยังไง วันนี้ผมก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม







            รัก..เหมือนเดิม






            เผลอๆจะมากกว่าเดิม


            อย่าทำแบบนี้ อย่าทำร้ายกันแบบนี้


            น้ำเสียงอ้อนวอน เว้าวอนขอร้องเหมือนใจจะขาด ร่ำร้องขอให้อีกฝ่ายยกโทษและให้อภัยกับสิ่งที่เขาได้ทำลงไป ในวันที่ทุกสิ่งทุกอย่างสายจะเกินแก้ ไม่ได้อยากจะจากไปแต่เขาจำเป็นต้องทำ




            รักมากแค่ไหน.. ก็ไม่มีวันเหมือนเดิม




            ลู่ฮานพูดได้เต็มปากว่าเขายังรักเซฮุน และคงลืมไม่ได้


          แต่อีกด้าน.. เขาก็เริ่มรู้สึกดีกับแบคฮยอนมากขึ้นเรื่อยๆ


          มากขึ้น..และมากขึ้น


            อย่าพยายามเลย..เซฮุนอา


            หลุบตาลงมองพื้น หลีกเลี่ยงสายตาที่มองมายังเขาอย่างปวดร้าว


            เขาไม่ได้เข็มแข็งขนาดนั้น..


            ไม่มีทางหรอก มันไม่มีทางเหมือนเดิม






          เจ็บปวด..ไม่แพ้กันเลย





          เพราะมันจะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเก่าอีกแล้ว รวมทั้งความรักของเราสองคนก็ด้วย


            ทุกสิ่งเหมือนได้ถูกกำหนด การตัดสินใจครั้งใหญ่ ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราทั้งสองไปตลอดกาล เลือกที่จะทิ้งหัวใจของตัวเพื่อความถูกต้องแม้ว่าเราทั้งคู่จะต้องเจ็บเจียน ตาย



          “ก็รู้ไม่ใช่รึไง... ว่าเรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้



          เซฮุนแค่นยิ้มออกมา ความจริงที่ไม่อาจหนีพ้น เหมือนก้อนอะไรขมๆจุกติดที่คอจนพูดอะไรไม่ออก เขามองหน้าลู่ฮานที่เอาแต่มองพื้น


            เพราะเหตุผลมันไม่ได้มีแค่นั้นใช่มั้ยล่ะ..


            ร่างสูงยืนนิ่งปล่อยให้ความคิดนั้นเหม่อลอยไปไกล ความรู้สึกเหมือนกับตอนนั้นที่เขายืนแน่นิ่งและค้างมือไว้กับประตู ในวันที่เขาได้แต่ยืนเฝ้ารออีกคนที่อยู่ในห้องและคิดว่าเสียงครางในนั้นจะ หยุดลงเสียที


            อยากจะเคาะ แต่ก็ทำไม่ได้...


            ขอตัวไปดูแลแบคฮยอนก่อนนะ


            ลู่ฮานบ่ายเบียงและใช้ความว่องไวของตัวเองรีบขึ้นไปหาคนที่ถูกพิษไข้รุมเร้า อยู่ข้างบน ทิ้งไว้เพียงแค่เด็กหนุ่มที่ไม่รู้ว่าหัวใจของเขาแตกสลายไปแล้วหรือยัง


            ตากลมหวานเหลือบมองคนที่ยืนแน่นิ่งด้วยใจสะเทือน ริมฝีปากสั่นระริกจากการสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา


 









            ขอโทษ.. ที่รักกันไม่ได้


            และยกโทษให้ด้วย.. ที่เผลอเทใจให้คนอื่นไปแล้ว











เด็กหนุ่มร่างโปร่งเดินเหม่อลอยริมถนนท่ามกลางสายฝนพรำ  นัยต์ตาเข้มของเขาไร้วี่แววของความรู้สึก แต่ที่น่าแปลก นั่นคือดวงตาที่แดงก่ำกับรอยน้ำใสๆที่เปรอะเปื้อนตายใบหน้า


สิ่งที่เห็นไม่อาจแน่ใจได้เลย ว่านั่นคือหยดน้ำฝน หรือ หยาดน้ำตา


เหมือน เด็กน้อยที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยว ณ ตรงนั้นที่ลู่ฮานเอ่ยตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่างเรา ทุกสิ่งทุกอย่างก็เหมือนวิทยุที่สายนั้นถูกตัด เหมือนนาฬิกาเรือนสวยที่บ่งบอกเวลาแต่ท้ายที่สุด สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือเวลา


แต่สิ่งที่เสียไป ก็คือ นาฬิกา




คือหัวใจของเขาเอง




เซฮุนกำลังหลงทาง เขาดูเหมือนไม่มีที่ไป กระบวนการความคิดของเขาติดลบศูนย์กะทันหันเพราะคนๆเดียว


ร่าง กายของเขาเสียการทรงตัว หัวใจของเขาได้รับความบอบช้ำอย่างหนัก น้ำตามากมายหลั่งไหลออกมาเพียงเพราะประโยคเพียงไม่กี่ประโยค แต่กลับแทงลึกเข้าไปในจิตใจจนเจียนตาย ความเย็นเยือกตกกระทบผิวจนสั่นสะท้าน ท้องฟ้าที่เคยเป็นสีไหม้เกรียม ในตอนนี้เหลือแต่เพียงความหม่นหมอง


คน ตัวสูงทรุดกายลงข้างๆตู้โทรศัพท์สาธารณะ เขาปล่อยให้ตัวเองเปียกปอนและต่อสู้กับความหนาวเย็น กอดเข่าและซบลง สะอื้นไห้ดังเป็นระลอกจนเกือบสำลัก


ฮึก..”


รู้อยู่แล้ว ว่าถ้าเขาเลือกเส้นทางนี้


เลือกที่จะทอดทิ้งจงอิน ทิ้งมิตรภาพของตัวเอง


แต่ในเมื่อการตัดสินใจครั้งนี้คือความเต็มใจของเขาเอง และรู้ว่าตัวเองต้องเจ็บ


แล้วจะให้ทำยังไง การที่เราอยู่กับคนที่ไม่ได้รัก ทรมานเสียเปล่า..


เซ ฮุนเงยหน้าขึ้น เมื่อเขารับรู้ถึงเงาที่พาดศีรษะ ใบหน้าคมแหงนขึ้นมองเจ้าของร่มที่กำลังบดบังฝนให้กับเขา น้ำตาของเขารื้นออกมาอีกครั้ง ใบหน้าสวยเคลือบด้วยเครื่องสำอางสีอ่อนกำลังส่งยิ้มบางๆมาให้







คนที่เขาทั้งรักและอิจฉาในเวลาเดียวกัน







พี่สาวต่างสายเลือดของเขา..
















ทิฟฟานี่..”















มาตากฝนอะไรตรงนี้ หืม เดี๋ยวไม่สบายหรอก

 


จบ คำพูดนั้น ในเวลาอันรวดเร็ว เธอก็พาเขามาที่คอนโดในห้องของเธอเอง เซฮุนทิ้งตัวลงที่โซฟานุ่มหลังจากที่เขาอาบน้ำและเปลี่ยนชุดแล้ว แก้วเซรามิกที่บรรจุนมอุ่นๆก็มาวางอยู่ตรงหน้า ทันทีที่ฝ่ามือของสัมผัสและปลายลิ้นที่รับรสชาติถึงความอุ่นร้อนที่แผ่ซ่าน ไปถึงจิตใจ



ขอบคุณฮะ..” ยิ้มและกล่าวขอบคุณ


ปลายลิ้นซึมซับรสชาติหวานนิดๆ หัวใจของเขารู้สึกเหมือนได้กลับไปอยู่บ้านอีกครั้ง




บ้านที่ในตอนนี้ ไม่มีอีกแล้ว..





ไม่มีตลอดไป





ที่ออกมายืนร้องไห้ตากฝนแบบนี้.. ไม่สมกับเป็นเราเลยนะเซฮุน


ริม ฝีปากบางผงะ สายตาเสมองลงพื้น ทิฟฟานี่มองน้ำนมอุ่นก่อนจะช้อนตาขึ้นมองน้องชายแท้ๆของตัวเองด้วยแววตา เอ็นดูแต่ขณะเดียวกันก็สงสาร เธอรู้เรื่องทั้งหมด เป็นผู้รู้และเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน



อดีตที่มีแต่เสียงหัวเราะ จนในเวลาต่อมามันมีแต่ความขมขื่นที่ไม่อยากจำ

 



            เพราะลู่ฮานหรอ…?”






          หน่วยตาคมมีประกายวูบลง เซฮุนเลือกที่จะไม่ตอบแล้วปล่อยให้ความเงียบเป็นสิ่งเดินนำ อีกคนพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย


            ถ้าเป็นไปได้.. เธออยากจะย้อนกลับไปในคืนวานอีกครั้ง..



            หวนเราสามพี่น้องกลับคืนมา



            พี่ไม่รู้หรอกนะว่านายเห็นและได้ยินบ้างในวันนั้น แต่พี่แค่อยากให้รู้ว่าพี่กับลู่ฮานไม่ได้เป็นอะไรกัน


            “แต่วันนั้นพวกพี่มีอะไรกัน จะให้ผมเชื่อยังไงเซฮุนกระแทกเสียงอย่างลืมตัวแต่ไม่มากนัก


            เซฮุน นายก็รู้นิว่าพี่กับลู่ฮานเราเป็นแค่พี่น้อง


            พี่น้องที่ไหน เขามีเซ็กส์กันล่ะครับ!”


            เซฮุน!”


            ความหงุดหงิดปะทุขึ้นในหัวใจที่รวดร้าวของเซฮุน เช่นเดียวกับอาการเริ่มไม่พอใจของทิฟฟานี่ที่อีกฝ่ายพูดถากถางเธอ






            จนกระทั่งความไม่พอใจดันทำให้เธอเอ่ยประโยคที่ไม่ควรพูดออกไป
















          แล้วฝาแฝดที่ไหน เขารักกั…!”















          ดูเหมือนเธอจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปจึงยั้งได้ทัน แต่มันก็คงสายไปเสียแล้ว



            เมื่อความเป็นจริง..ยังคงตอกย้ำและเตือนใจ



            ความจริงที่ว่า เสี่ยวลู่ฮาน และ โอเซฮุน คือ พี่น้องฝาแฝดที่เกิดจากไข่ใบเดียวกัน


            ฝ่ามือหนากำแน่นจนเลือดซิบ กายสูงสั่นระริก นัยต์ตาคมวาวไปด้วยน้ำใสและแดงก่ำ กลีบปากเม้มแน่น


            ผมเกลียดพี่..”



            ซะ..เซฮุน คือ.. พี่ขอโทษ



            ฮึก ผมเกลียดพี่!!”






 
          ร่างสูงวิ่งออกไปจากตรงนั้น ไม่แม้แต่สนใจเสียงเรียกร้องของพี่สาวอย่างทิฟฟานี่ ไม่อยากแม้แต่จะยอมรับความจริงที่สะเทือนใจ


            ปึง!



            เสียงบานประตูกระแทกกับผนังดังลั่น ร่างหญิงสาวพรวดออกมาจากห้องมองน้องชายที่วิ่งหายไปจากทางเดินอย่างเป็นห่วง ความรู้สึกผิดปราดเข้ามาในอก สายตาเหลือบมองคนที่ซ่อนอยู่หลังบานประตูเงียบๆ




            ขอโทษนะลู่ฮาน..”



            เจ้าของนัยต์ตาเศร้าส่ายหน้าเบาๆ รอยยิ้มบางๆนั้นสั่นระริกจากการฝืนกลั้น




            ไม่หรอก.. แบบนี้แหละดีแล้ว




          ดีแล้ว จริงแน่หรือ..?




          ฮึก..”




            แล้วทำไม.. นายถึงร้องไห้ล่ะ..เสี่ยวลู่ฮาน




          ฮือ..ฮึก





            ทำไม..น้ำตาถึงไหลออกมาขนาดนั้นล่ะ





            ทิฟฟานี่ได้แต่คิดในใจ ขณะที่ร่างโปร่งบางตรงนั้นยังคงส่งเสียงสะอื้น เธอมองจุดบริเวณที่เซฮุนวิ่งออกไปก่อนจะหันมามองคนที่ยืนร้องไห้ฟูมฟาย ไม่เหมือนกับลู่ฮานคนเดิม



            สิ่งที่ตราตรึงในความคิด คือรอยน้ำและความเจ็บปวดในแววตาสองคู่นั้น..















          คนหนึ่งเจ็บปวด..


          แต่เขาจะรู้มั้ย..ว่าอีกคนก็เจ็บไม่แพ้กัน









            ในคาบพักเรียนที่แสนจะรอคอยของใครหลายๆคนกลับมีผลตรงข้ามกับคนที่อยู่ในห้อง เรียนอย่างเปล่าเปลี่ยว ร่างเล็กๆเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างที่มีเพียงแค่สายลมพัดปลิว เสียงพูดคุยดังจ้อกแจ้กแต่ก็ไม่ได้ดึงความสนใจจากสายตาเศร้าๆนั้นได้แม้แต่ น้อย


            สายหูฟังสีขาวถูกอุดหู เสียงบรรเลงดนตรีเศร้าๆกลั่นออกมาจากลำโพงเล็กๆเกือบให้เคลิ้มหลับ เนื้อเพลงที่แสนจะโศกเศร้าค่อยๆซึมซับความรู้สึกในใจของเขา


            ไม่รู้มันผ่านไปนานแค่ไหน  ไม่ได้สนใจแม้แต่เสียงเรียกของเซฮุน ไม่ได้หันไปมองจงอินที่เข้าห้องมานั่งหลับ ไม่แม้แต่หันไปคุยกับจื่อเทาที่เอาแต่เล่นโทรศัพท์



            ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น



            มัน ช่างเงียบเหงา อ้างว้าง เศร้าสร้อย ราวกับดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา ปราศจากการรดน้ำจากเจ้าของที่รักมากสุดหัวใจ คิดถึงมากแค่ไหน ไม่รู้ว่าคนๆนั้นจะรู้มั้ย ครอบครัวที่มีพ่อเอาแต่ขับรถไปทำงาน ส่วนแม่ก็ออกไปหาเหตุการณ์ใหม่ๆในการเขียนหนังสือ



            ในบ้านที่เดียวดาย ผ้าห่มผืนหนาแต่ไร้ความอบอุ่น กลิ่นกายคุ้นเคยที่เหลือเพียงน้อยนิด ไม่อาจต้านทานความคิดถึงและโหยหา



            เลือกไม่ได้ บอกไม่ได้ และทำไม่ได้





            รัก.. ไม่ได้




            แต่ก็ลืมไม่ได้เช่นกัน





            เหตุผลเดียวที่สำคัญ พูดออกมาได้ง่าย แต่ในการกระทำนั้นกลับยากแสนเข็ญ




            แบ คฮยอนย่ำเท้าเดินไปตามทางเดิน เขาแค่อยากจะมาขอยาแก้คลื่นไส้จากห้องพยาบาลเท่านั้น รู้สึกมึนหัวจนอยากจะอาเจียน เสียงโหวกเหวกๆค่อยๆห่างออกไปจนเหลือแต่ความเงียบ


            ชีวิต ของเขา ไร้สีสันและว่างเปล่าจนน่าใจหาย ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับชานยอล เหมือนกำลังถูกอะไรบางอย่างหักออกจนเหลือสองซีก ราวกับมีกระจกใสๆขึ้นมากั้นกลางระหว่างพวกเขาทั้งสอง




            เห็นอยู่ตรงหน้า.. แต่กลับเอื้อมคว้าไม่ได้




            ขา เล็กๆชะลอฝีเท้าลง จนในที่สุดก็หยุดเดิน เนิ่นนานที่เขายืนอยู่ตรงนั้นและปล่อยให้ความเงียบโอบล้อมกาย พื้นซีเมนต์รองรับน้ำตาซึ่งไหลจากปลายคางมนที่ละหยดๆ แว่วเสียงสะอื้นเล็ดลอดจากลำคอ สายตาเรียวเล็กเจ็บปวดเกินจะทนไหว ไหล่บอบบางนั้นสั่นไหว แบกความปวดช้ำไว้มากมายจนแทบปริแตก







          แบคฮยอนกำลังเสียการทรงตัวของหัวใจ






            อยากเจอ...ฮึก..



            เหมือนเป็นประโยคที่ไม่ได้ต้องการบอกใครให้ได้ยิน



            ฮือ..ฮึก อยากเจอ..จ..จังเลย.. ยอลอ่า



            มันก็แค่คำขอร้องที่ออกมาจากข้างใน



            ทุกๆอย่างรอบตัวเงียบลงเหมือนโลกหยุดหมุน




            นัยต์ ตาฉ่ำวาวชะงักหากแต่น้ำตานั้นยังไม่หยุดไหล แบคฮยอนก้าวเท้าไปยังต้นเสียงที่มาจากห้องดนตรีใกล้ๆ พลังเสียงที่อ่อนโยนแต่ซ่อนพลังที่แสนแข็งแกร่งไว้ เสียงเปียโนที่แสนลึกซึ้งแต่เหมือนถูกกลั่นออกมาจากใจของคนเล่น



            จากเสียงสูงและค่อยต่ำ แล้วเลื่อนมากลาง ปลายนิ้วเรียวเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต



            ดวง ตาเรียวเศร้าจ้องมองแผ่นหลังใหญ่ที่แสนคุ้นเคยผ่านช่องประตูที่แง้มออกมา เล็กน้อย ใบหน้าดูดีราวกับรูปปั้นที่สง่า สงบนิ่งแต่ช่างดูหม่นมอง


            แบ คฮยอนไม่ได้รู้ตัวเลยว่าน้ำตาตัวเองนั้นหยุดไหลแล้ว เขาไม่ได้รู้ตัวเองเลยว่าได้ก้าวเท้าเข้าไปอยู่ด้านหลังของอีกคนเสียแล้ว แขนเรียวเล็กวาดโอบรอบคอคนตรงหน้าจากทางด้านหลัง



            เสียงเพลงนั้นหยุดลงพร้อมกับการกระชับกอดที่แน่นขึ้น



            ไม่ต้องให้หันไปมอง ชานยอลก็รู้ว่าใคร กลิ่นหอมอ่อนๆของแชมพูที่ใช้เป็นประจำจนชิน.. มีแค่คนเดียว



            ยอลหายไปไหนมา..ฮึก



            จะหาว่าเป็นพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องก็ช่าง



            ..ทำไม..ฮึก..ถึงทิ้งแบคไว้คนเดียว



            จะถูกกล่าวว่าเป็นพี่ชายที่งี่เง่า ติดน้องชาย ก็ไม่แคร์



          ฮึก..คิดถึง.. คิดถึงมากๆเลย.. ฮือๆ... แบคฮยอนคิดถึง..ช..ชานยอล



          พร่ำบอกอยู่ในท่านั้น เอาโหนกแก้มถูไถไปกับไหล่แกร่งอย่างเอาแต่ใจ กอดแน่นราวกับร่างนั้นจะหายไปอีก


            ชานยอลได้แต่นั่งเงียบๆ ฟังเสียงร้องไห้ฟูมฟายข้างหู แววตาของเขาเจ็บปวดมากสุดใจจะขาด แต่ในเมื่อเขาตัดสินใจไปแล้ว.. เขาเลือกแล้ว..




          เลือกในการยืนอยู่ข้างๆคยองซู





            ชานยอล..ฮือ..ชานยอล






            พลัน ร่างเล็กๆก็ลอยหวือมาอยู่บนตักแกร่ง บดเบียดกายให้แนบชิด เสียดสีหน้าขาจนรู้สึกวูบหวิวแปลกๆในอก ริมฝีปากประกบกันด้วยความคิดถึง เกี่ยวกระหวัดและหยอกล้อผ่านปลายลิ้นอุ่นร้อน



            น้ำ ใสๆไหลยืดเปื้อนมุมปาก ยามเกลียวลิ้นผละออกมา ก่อนจะประกบเข้าไปใหม่ มือเรียวสวยลูบไล้แผ่นหลังแกร่งผ่านเนื้อผ้า ขณะที่ฝ่ามือแกร่งกำลังไล้วนอยู่แถวสะโพก



            พรมจูบรอบเรียวหน้าแสนคิดถึง จ้องมองผ่านแววตาอันลึกซึ้ง






 

            แบคฮยอนก้มหน้าลงจนชิดอก เรือนกายสวยถูกยกขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงอุทานร้องขึ้นก่อนที่เรียวขาจะเกี่ยวเอวหนาไว้ได้ทัน เขากอดคออีกคนไว้แน่นพลางซุกลงกับอกอุ่นๆ กึ่งกลางระหว่างขาเสียดสีกันเบาๆยามที่ชานยอลย่ำเท้าและจงใจกอดคนตัวเล็กแน่นขึ้น

            แบคฮยอนถูกวางไว้ที่มุมห้อง ตาเรียวเล็กฉ่ำมองใบหน้าหวานซ่อนเข้มที่มองมาที่เขาด้วยแววตาพราวระยับ ก่อนที่ร่างสูงจะลุกออกไป ได้ยินเสียงเหมือนประตูถูกล็อคกึกและถูกลงกลอนไว้

            ปลายนิ้วเท้าจิกลงกับพื้นแน่นเมื่อเจ้าของสายตาที่จาบจ้วงมองมายังตรงเรียวขาของตน ชานยอลดึงชายเสื้อออกจากกางเกง ก่อนจะนั่งคุกเข่าลงตรงหน้า มือใหญ่เอื้อมมากลัดกระดุมและรูดซิปกางเกงลงแบคฮยอนหลับตาปี๋ แก้มอิ่มแดงระเรื่อ หยาดเหงื่อผุดขึ้นตามเรียวหน้าสวย

            ร่างกายรุ่มร้อนยามที่เนื้อผ้าของกางเกงเสียดสีผิวเนื้อน้ำนมตามขาเล็ก เหมือนถูกไฟฟ้าช็อตเมื่อปลายนิ้วนั้นเผลอแตะเข้าโดนที่เนื้อนุ่ม แบคฮยอนรู้เพียงว่ากางเกงนักเรียนและบ๊อกเซอร์ที่สวมใส่ค่อยๆถูกลากออกจากข้อเท้า และถูกวางไว้ข้างๆ

            เหลือเพียงชายเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ยาวมาปิดตรงสะโพกอย่างหมิ่นเหม่ กลีบปากบางแตะเข้ามาที่ข้างขมับ มือหยาบกร้านไล้เข้ามาที่ต้นขาด้านใน บีบคลึงเบาๆก่อนจะขย้ำเนื้อนุ่มๆเต็มมืออย่างหมั่นเขี้ยว

            อื้อ.. เจ็บนะ อ้ะ

            แบคฮยอนอ่า.. น้ำเสียงแห่บพร่าจนใจสั่นข้างหู เคลิ้มไปกับสัมผัสที่กำลังเลื้อยเข้ามาใต้ร่มผ้า ขาเรียวถูกแยกออก แบคฮยอนตะโกนร้องห้ามเมื่อจู่ๆชานยอลก็ซุกศีรษะเข้ามาในเสื้อตัว แลบเลียชิ้มเนื้อหวานๆ ดูดเม้มจนเกิดรอยแดงสีกุหลาบ

            มือบางบีบไหล่แกร่งแน่น เมื่อเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบบนผิวเนื้อตัวเอง ขาเล็กเกร็งแน่น เมื่อร่างสูงไล้ริมฝีปากเลื่อนลงไปข้างๆเรื่อยๆ ปลายจมูกสูดดมความหอมหวานบนผิวเนื้อน้ำ เขาซุกใบหน้าอยู่ที่หว่างขาของคนตัวเล็กจนได้ยินเสียงหวานๆนั้นดุกลายๆว่าให้ผละออกไป

            คิดถึงจนใจจะขาดแล้วรู้มั้ย.. เรื่องอะไรจะปล่อยไปง่ายๆ..

            อ๊า.. ชานยอล..ย..อย่าเลีย อ..ฮ้า

            แบคฮยอนหวีดร้องเมื่ออีกฝ่ายแลบเลียแถวช่องทางสีหวานจนชุ่มฉ่ำ เหมือนอะไรนุ่มๆกำลังจะพยายามเข้ามาข้างในตัวจนรู้สึกเสียวแปลกๆ ขาเรียวอ้ากว้างขึ้นเมื่อจากปลายลิ้นเปลี่ยนเป็นนิ้วแกร่งที่สอดเข้ามาในรวดเดียว

            กัดกลีบปากล่างเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังจะปลดปล่อย เผยอปากรอรับรสจูบเร่าร้อนและดูดดื่ม แลกเปลี่ยนน้ำสีใสอย่างไม่นึกรังเกียจ ช่องทางสีหวานตอดรัดนิ้วเรียวที่ขยับเข้าออกอย่างเอาแต่ใจ พลางสวนสะโพกกลับไปจนร้องครางในลำคอ

            เหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในปุยเมฆ นำพาให้ร่างกายสุขสมในกามสีขาว ร่างกายกระตุกเมื่ออะไรบางอย่างที่ใหญ่กว่าเข้ามาแทนที่ ท่อนเอ็นอุ่นๆถูกยัดเยียนเข้ามาข้างใน

            เสียงหวานกรีดร้อง สะโพกอิ่มถูกบีบเฟ้น จุดกระสันถูกกระแทกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทรมานอันหอมหวานเหมือนพายุที่โหมกระหน่ำ  ใบหน้าสวยเชิดขึ้น เรียวกปากอิ่มกัดเบาๆที่ลำคอแกร่งราวกับยั่วยวน ตอดรัดแก่นกายใหญ่ที่ชำแรกเข้ามาในตัว

            ผนังอ่อนนุ่มขูดตามท่อนเอ็นร้อนจนอดหวีดร้องความสุขไม่ได้ ฝ่ามือทั้งสองประสานกันแนบแน่นจนไม่อยากจะปล่อย

            อีก..อ้ะ..

            ...

            แรง.. ฮื้อ.. แรงอีก อ๊า..

            สะโพกหนากระแทกรัว หยาดเหงื่อกระเซ็นตามแรงเคลื่อนไหว ร่างกายสั่นไหวตามแรงปรารถนา เสียงหอบหายใจปะปนกับเสียงครางจนแทบแยกไม่ออก

            ลึก..เข้ามาลึกกว่านี้ อ๊า..ชานยอล..ฮึก..ยอล

            แบคฮยอน..”

            เสียงทุ้มกระเส่า.. จ้องมองนัยต์ตาหวานเยิ้ม กระซิบแผ่วเบาข้างหู เนื้อตัวแฉะไปด้วยน้ำเหงื่อ อุณภูมิความร้อนและความต้องการพุ่งสูงขึ้นจนเกินขีดจำกัด แขนบางยกตัวขึ้นกอดกายแกร่งที่อยู่ด้านบน




            คิดถึง..



            อือ..แบคฮยอน อ้าขากว้างๆหน่อย

            ร่างกายกระตุกเมื่ออารมณ์ทางกายนั้นเสร็จสม ความอุ่นร้อนพุ่งเข้ามาอยู่ในตัวจนไหล่ตามเรียวขา แบคฮยอนอาศัยจังหวะที่อีกคนเผลอ ผลักให้นอนราบไปกับพื้น มือเล็กกดไหล่แกร่งด้วยแรงน้อยๆที่มีอยู่

            แก่นกายอุ่นที่ยังคงอยู่ในตัวแข็งขืนขึ้นมาอีกครั้งเมื่อช่องทางเล็กนั้นจงใจตอดรัดแรงๆ เรียวหน้าสวยโน้มลงก่อนจะแนบริมฝีปาก สอดลิ้นเล็กๆเข้าไปหยอกเอินราวกับต้องการให้พายุรักนั้นโหมกระหน่ำรุนแรงอีกครั้ง

            ชานยอลกดยิ้มมุมปาก ใช้มือยันตัวขึ้นมาแล้วเอนหลังพิงไปกับผนังห้อง จับสะโพกอิ่มให้แน่น ก่อนที่เรือนกายเล็กจะจงใจยกตัวขึ้นแล้วกระแทกลงมาทันที

            อีกนานกว่าพายุจะสงบ.. ไม่มีใครสนใจเสียงออดดังที่ถึงเวลาเข้าเรียน หากมีใครเดินผ่านก็คงได้แต่ฉงนใจ แบคฮยอนกระแทกตัวลงซ้ำๆ ขณะที่ฝ่ามือกร้านกำลังไล้วนก้อนเนื้อนิ่ม แลบลิ้นชิมเนื้อหวานๆอีกครั้ง




            ชานยอลกำลังลืมสถานะตัวเองไปชั่วขณะ เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อได้อยู่กับแบคฮยอน






          ขาดคนๆนี้ไม่ได้จริงๆ









            ทุกอย่างๆรอบๆช่างลงตัว หากแต่แบคฮยอนจะสะกิดใจสักนิด หากแต่ช่วงเวลาที่แบคฮยอนเดินมา เขาจะหันไปด้านหลังสักนิด ก็คงได้พบกับใบหน้าคมเท่ที่กำลังตามมาด้วยความเป็นห่วง













ท่ามกลางเสียงครางหวานอย่างทรมานแต่สุขสม











หลังบานประตูนั้นมีใครรู้มั้ยว่าหัวใจดวงเล็กๆนั้นกำลังเจ็บปวด..





            การที่ได้รู้ว่าคนรักของเราไม่ได้รักเรา ว่าเจ็บแล้ว..




            แต่กับการที่ได้รู้ว่า..แฟนของเรา.. รักกับคนอื่นอยู่นั้น ..เจ็บกว่า..




            เจ็บเมื่อได้รู้ว่า.. ที่ผ่านมา แบคฮยอนไม่เคยรักเขาเลยสักครั้งเดียว




            มี ใครได้สนใจมั้ยว่าร่างสูงโปร่งที่กำลังยืนสั่นไหวและแค่นยิ้มทั้งน้ำอย่าง เจ็บปวดแค่ไหน มีใครได้รู้มั้ยว่าการค้นพบความจริงด้วยตาตัวเองมันเจ็บกว่าครั้งไหนๆ จะมีใครรู้มั้ยว่าภายใต้หน้าที่แสนเรียบนิ่ง ตอนนี้ในใจของเขากำลังร้องไห้





 







 

            จื่อเทากำลังร้องไห้









……..



            อ้าว คุณหนูกลับมาแล้วหรอคะ ไม่ทราบว่าอยากได้อะไรทานสั..



            ปัง!



            เสียงปิดประตูดังปึงอย่างไม่แยแสคนที่ถามไถ่ถึงความเป็นห่วง แม่บ้านขมวดคิ้วหลวมๆแต่ก็ไม่ติดใจสงสัยอะไรกับท่าทีที่ดูขึงขังของลูกชาย เจ้านายตั้งแต่เดินเปิดประตูเข้ามา



            ร่างสูงโยนกระเป๋าเป้ลงบนที่นอนของตัวเอง เนคไทถูกปลดปมให้หลวมๆดูผ่อนคลาย นัยต์ตาเฉี่ยวนั้นแดงก่ำและข้างแก้มที่ยังเหลือรอยคราบน้ำตา ปากบางสั่นเทาราวกับพูดอะไรไม่ออก น้ำตาที่คิดว่าเหือดแห้งไปแล้วไหลออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า



            ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก ก่อนที่เขาจะย่างก้าวเข้าไป มองใบหน้าตัวเองที่ดูน่าสมเพชในกระจกเงา ฝ่ามือแกร่งกำแน่น เล็บจิกเข้าไปในเนื้อจนเลือดซิบ




            ให้ทุกๆอย่าง... กับความรักที่มีให้




            แล้วทำไม..ถึงไม่ได้อะไรกลับมาเลย





            แม้แต่เศษเสี้ยว...








            ทุกสิ่งทุกอย่างของความรักที่จื่อเทาให้ไป







            ไม่เคยได้อยู่ในความรู้สึกของบยอน แบคฮยอนเลยงั้นหรอ...  ?








            เหอะ เรื่องบัดซบชัดๆ เสียงเข้มแห่บสบถออกมา ยิ่งหลอกตัวเองว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ทั้งภาพทั้งเสียงต่างๆนานาเมื่อตอนกลางวัน ก็ค่อยๆผุดฉายขึ้นมาราวกับกรอวิดีโอ




            อ้ะ..อ๊า..ชาน..ย..ยอล




            ชานยอล..งั้นหรอ?” ใบหน้าเข้มแสดงความเย้ยหยันออกมาทั้งน้ำตา



            ทั้งเจ็บและปวด



            ทั้งเสียใจจนไม่รู้จะพูดอะไร



            ไม่ใช่ไม่รู้จะพูดอะไร.. ต้องเรียกว่าพูดไม่ออกมากกว่า



            ไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นมันเป็นความจริง แม้จะระคายเคืองแค่ไหนกับแฝดคู่นี้



            แต่ไม่คิดว่าจะเห็นด้วยตาตัวเอง




            คิดว่าโลกผิดเพศนั้นว่าผิดมากแล้ว




            แต่สำหรับในตอนนี้มันยิ่งกว่าผิดศีลธรรม..เสียอีก



            ทั้งผิดหวัง แต่... ก็ยังรัก



            น้ำไหลออกจากฝักบัวด้วยฝีมือของเขา ความอุ่นเย็นชโลมกายที่เหนื่อยล้าของเขาอย่างนุ่มนวล ปัดเป่าความหนักอึ้งไปได้ส่วนหนึ่งแต่มันไม่ทั้งหมด



            จะให้เลิกรักรึไง.. ทั้งๆที่ให้ไปหมดแล้ว   ..ทั้งใจ



            ไม่เคยรักกันเลยหรอ.. สักนิดเลยหรอ.. หมาน้อย



          พร่ำถามกับอีกฝ่าย ทั้งๆที่รู้ว่าเจ้าตัวคงไม่ได้ยิน เสียงทุ้มสั่นระริกอย่างขาดใจ เมื่อความจริงที่ไม่เคยรู้ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้า



            ปลายผมลู่ติดใบหน้า เนื้อตัวชื้นไปด้วยหยาดน้ำ






            เสมือนโลกทั้งโลกพังทลาย..
         

           














            “ดื่มมากไปแล้วไอ้ลู่



            คริ สเอ่ยปรามคนหน้าหวานที่เตรียมจะกระดกกระป๋องเบียร์ใหม่อีกครั้ง ใบหน้าหวานนั้นเรียบนิ่งจนดูน่ากลัวแต่แฝงความเศร้าจนดูน่าสงสาร แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะปลอบอีกฝ่ายยังไง เพราะเรื่องตัวเองเขาก็แทบจะไม่รอด..



            พวก เขาสองคนนั่งอยู่ที่ม้านั่งริมแม่น้ำฮัน ในเวลาค่ำคืนที่มีคนพลุ่กพล่านน้อยจนแทบจะเรียกว่าเปลี่ยว บริเวณพื้นตรงที่พวกเขานั่งเต็มไปด้วยกระป๋องเบียร์เปล่าๆที่อีกคนดื่มเข้า ไปในร่างกายเสียหมดแล้ว



            กลิ่นแอลกลอฮอล์คลุ้งดชยจนต้องเบ้หน้าแต่ไม่สำหรับคริส



            รักขนาดนั้นแล้วทำไมถึงเลือกทางวะ เสียงแหบทุ้มเอ่ยโทนนิ่งๆ คริสไม่ได้หันไปมองหน้าคนข้างๆแต่ก็พอเดาได้ว่าสีหน้าของอีกคนคงกำลังกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่เป็นแน่




            มึงกับเด็กคนนั้น... รักกันจะตาย





            ใช่... ทั้งๆที่รักกัน.. ทำไมถึงต้องเลือกคนละเส้นทางที่ต้องทำให้ตัวเองเจ็บปวด..




            ผิดกับเขา.. ที่ไม่ว่าจะทำยังไง..



            ต่อให้เกิดสักกี่ชาติ หรือจะเป็นทั้งปีศาจทั้งเทวดา ก็ไม่มีทางได้ครองหัวใจของคนๆนั้นมาอยู่ดี



            “กูจำเป็นต้องทำ อยากจะให้แม่งกลับมามากก็จริงแต่มันเป็นไปไม่ได้วะเสียงกระป๋องถูกบีบแน่นจนเละไม่เป็นทรง ลู่ฮานเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีดำ สะกัดกลั้นน้ำตาให้จมลงไป




             เป็นไปไม่ได้.. เรื่องของเขากับเซฮุน มันไม่มีวันเป็นไปได้ นอกจากว่าจะต้องตายแล้วเกิดใหม่อีกครั้ง




            ความเป็นจริงที่ควรรู้ และเซฮุนก็คงเข้าใจข้อเท็จจริงข้อนี้ดี




            ไอ้คำว่าเป็นไปไม่ได้ของมึง กูไม่เข้าใจวะ เป็นไปไม่ได้ของมึงคืออะไร มันไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่มึงรู้ว่ามึงกับมันรักกันไม่ใช่รึไง



            อาจจะเป็นประโยคที่ยาวเหยียดของคริสในรอบเดือนเสียก็ได้ ร่างโปร่งเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนตัวสูงกำลังจะสื่อแต่....



            ก็อย่างที่มึงไงไอ้คริส.. เปลือกตาบางปิดแน่น น้ำเสียงหวานสั่นระริกราวกับเสียงทะเลที่เงียบสงบแต่หารู้ไม่ว่าใต้น้ำลึกนั้นภูเขาไฟใต้น้ำกำลังจะระเบิดออกมา



            ความเจ็บปวดมันอัดแน่นในอก..จนแทบทนไม่ไหว





            มึงไม่เข้าใจหรอก”     





          ...




          ต่อให้มึงสรรหาความหมายนั้น.. มึงก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก




          “…”




          ถึงมึงจะรู้และเข้าใจมันแล้ว แต่มึงก็ไม่มีทางที่จะช่วยกูได้หรอกวะจริงๆ





            นัยต์ตาเฉี่ยวคมของคริสหม่นแสงและไหววูบ เจ้าของกายแกร่งไม่ได้พูดอะไรอีกหลังจากที่ลู่ฮานบรรยายความรู้สึกของตัว เองอย่างกำกวมให้เขาคิดหาคำตอบเล่น ต่างคนต่างเจ็บปวดในรูปแบบความรักของตัวเอง



            จนกว่าวังวนนี้จะจบ..



            จนกว่ากงล้อแห่งโชคชะตาจะหยุดหมุน



            เรื่องราวทุกอย่างคงต้องจบไปตามยถากรรม




            และคงไม่มีใครที่จะชนะเกมบาปนี้ที่พระเจ้าเป็นคนสร้าง








            เพราะคนชนะ.. ก็คือคนที่ชนะหัวใจตัวเอง.. เท่านั้น





            เท่านั้นจริงๆ...  









           


            To be continues…